แป้งเด็กเป็นหนึ่งในของชิ้นแรก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เลือกซื้อเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าใครเวลาคิดถึงทารกตัวอ้วนจ้ำม่ำก็ต้องนึกถึงตอนอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ประแป้งฝุ่นหอมฟุ้ง แต่ทราบหรือไม่ว่าแป้งเด็กที่คุณพ่อคุณแม่กำลังใช้อยู่นั้นอาจไม่ปลอดภัยต่อลูกน้อย
ในปัจจุบัน นอกจากความร้อน ความอับชื้น และเชื้อโรคใหม่ ๆ สารพัดชนิดที่ทำอันตรายต่อผิวบอบบางของเด็กแล้ว ยังมีฝุ่นและมลภาวะในอากาศที่พร้อมสร้างความเสียหายต่อปอดและทางเดินหายใจของทารก แน่นอนว่าเรื่องนี้สร้างความกังวลต่อทั้งผู้ปกครองและกุมารแพทย์จำนวนมาก สาเหตุหนึ่งของฝุ่นที่ใกล้ตัวลูกน้อยก็คือแป้งเด็กนั่นเอง
จากกรณีการปนเปื้อนของแร่ใยหินซึ่งเป็นสารอันตรายที่พบได้บ่อยในบริเวณที่มีการทำเหมืองทัลคัมลงไปในแป้งเด็กและเครื่องสำอางหลายชนิด ก่อให้เกิดความตื่นตัวในเรื่องสารสังเคราะห์ที่เป็นวัตถุดิบการผลิตแป้งและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเป็นอย่างมาก
นอกจากแร่ใยหินจะถูกคัดกรองออกจากแป้งเด็กอย่างเข้มงวดแล้ว สมาคมกุมารแพทย์แห่งอเมริกายังแนะนำให้เลิกใช้แป้งเด็กที่มีส่วนผสมของทัลค์หรือทัลคัมซึ่งย่อยสลายตามธรรมชาติได้ยาก และมีความเสี่ยงสูงที่จะปนเปื้อนแร่ใยหินตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 เนื่องจากพบว่าแม้กระทั่งทัลค์บริสุทธิ์ก็ตกค้างในทางเดินหายใจของเด็กและสร้างความระคายเคือง นำไปสู่ภาวะหลอดลมไวเกินและโรคทางเดินหายใจหลายชนิดหากสะสมเป็นเวลานาน หลักฐานงานวิจัยจำนวนมากบ่งชี้ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้แป้งเด็กที่มีส่วนประกอบของทัลค์ในบริเวณผ้าอ้อมกับความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งรังไข่ เมื่อเด็ก ๆ โตขึ้น ข้อเท็จจริงนี้นำไปสู่คำสั่งให้เก็บแป้งที่มีส่วนผสมของทัลค์และทัลคัมออกจากร้านค้าทั่วสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา
แล้วแป้งเด็กแบบไหนเหมาะสำหรับเด็ก?
สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ใช้แป้งที่มีส่วนผสมจากพืช เช่น แป้งจากข้าว เนื่องจากเป็นสารอินทรีย์ที่มีคุณสมบัติย่อยสลายเองได้ ทั้งยังอ่อนโยนต่อผิวหนัง ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ และไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในอนาคต นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังแนะนำวิธีทาแป้งเด็กอย่างถูกต้อง โดยโรยลงบนฝ่ามือของผู้ปกครองก่อนจะลูบเป็นชั้นบาง ๆ บนผิวเพื่อสร้างชั้นป้องกันความอับชื้นและกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวเด็ก โดยไม่ก่อให้เกิดการฟุ้งกระจายของฝุ่นแป้งซึ่งอาจก่อให้เกิดความระคายเคืองทางเดินหายใจ
ถึงแม้ในประเทศไทย ความรู้เรื่องอันตรายของแป้งเด็กที่มีส่วนประกอบของทัลคัมจะยังไม่แพร่หลาย อีกทั้งยังไม่มีการประกาศห้ามจำหน่ายแป้งที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าว แต่เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยและสมาชิกในครอบครัว การหลีกเลี่ยงแป้งที่มีส่วนประกอบของสารสังเคราะห์แล้วหันมาใช้แป้งที่ผลิตจากข้าว 100% ที่อ่อนโยน นับเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยมากกว่าสำหรับลูกรัก นอกจากช่วยปกป้องผิวบอบบางของลูกน้อยด้วยแป้งที่ปราศจากสารอันตรายและสร้างเกราะป้องกันผิวจากความอับชื้นแล้ว ยังช่วยให้ลูกหลับสบาย ปลอดภัยต่อทางเดินหายใจ ลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้และโรคมะเร็งในอนาคตอีกด้วย