เล่นจ๊ะเอ๋ มีประโยชน์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ - จิตแพทย์

0
2470

มีการละเล่นชนิดหนึ่งที่ดูจะง่ายเสียจนหลายคนหลงลืมไป เรามาทบทวนกัน

1. การเล่นจ๊ะเอ๋ ควรจะเริ่มเล่นได้เมื่อเด็กรู้ว่าวัตถุมีจริงแล้วคือ object permanence ของชิ้นหนึ่งหายไปแล้ว โผล่มาใหม่ได้ เอาผ้าไปคลุมของเล่นที่เขากำลังเล่น เขารู้จักพลิกผ้าหาของออกมาเล่นต่อได้ ความสามารถนี้อยู่ที่อายุ 8 เดือน

2. อย่างไรก็ตามแม่จะเป็นวัตถุแรกที่มีอยู่จริงตั้งแต่ประมาณ 6 เดือน แม้จะเป็นเพียงอรุณรุ่งของความเป็นแม่ แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ (ก่อน 6 เดือนเป็นนางทาส) แม่หายไปจากสายตา เดี๋ยวก็จะกลับมา แม่เข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็จะออกมา แม่ไปทำผม เดี๋ยวก็จะกลับมา ดังนั้นจะเริ่มเล่นตอนทารก 6 เดือนก็น่าจะจ๊ะเอ๋ได้ แต่หากพบว่าเขาทำมึนก็อย่าตกใจไป ของธรรมดา หากเขาร้องไห้จ้าก็อย่าเสียใจ เขายังไม่พร้อมจะเล่นจ๊ะเอ๋เฉย ๆ

3. นักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจนักว่าทารกมี face recognition ตั้งแต่เมื่อไร กล่าวคือทารกรู้เมื่อไรว่าใบหน้าแบบนี้คือมนุษย์ หู ตา จมูก ปาก หากมีรูปร่างแบบนี้และวางตรงตำแหน่งที่ถูกต้อง (คือหูอยู่ข้างหัว) ต้องเป็นมนุษย์แน่ ๆ ก่อนหน้าที่จะรู้จักใบหน้าแม่ต่อไป บ้างว่ารู้ทันทีหลังเกิด บ้างว่าประมาณ 1-3 เดือน จะอย่างไรก็ตามนี่คือรากฐานของการเล่นจ๊ะเอ๋

“จ๊ะ – เอ๋” !!!

ประเด็นคือ ผู้ใหญ่แปลกหน้าที่มาเล่นจ๊ะเอ๋กับลูกเราแล้วทำลูกเราร้องไห้จ้าควรเชิญออกจากบ้าน จ๊ะเอ๋เขาเอาไว้เล่นกับคนรัก  เป็นแฟนเล่นจ๊ะเอ๋ถึงจะสนุก  น่ารัก  ปิดไฟมองไม่เห็นยังน่ารักเลย  ไม่เป็นแฟนมาเล่นจ๊ะเอ๋ได้อย่างไร

4. จ๊ะเอ๋จึงเป็นการเล่นที่ตอกย้ำความมีแม่ ความเป็นแม่ ความมีอยู่จริงของแม่ และนั่นเท่ากับสร้างเสริมสายสัมพันธ์กับแม่ด้วย เดี๋ยวหายเดี๋ยวมี คราวนี้เลื่อนมาทางพ่อ กลับบ้านเดือนละครั้งก็ควรเล่นจ๊ะเอ๋ แต่มิใช่ผลีผลามเข้าไปไม่รู้ตัว หากนาน ๆ กลับมาครั้งหนึ่งก็ควรมีเวลาอุ่นเครื่องกันก่อน ยิ้ม อุ้ม กอด เล่นอย่างอื่นบนพื้นดินสักพัก แล้วค่อยเล่นจ๊ะเอ๋อีกที

5. จ๊า ยาวๆ –  เอ๋ ยาว ๆ ย่อมไม่สนุกเท่า จ๊ะเอ๋! มีเครื่องหมายอัศเจรีย์ตกใจ องค์ประกอบสำคัญของจ๊ะเอ๋มิได้มีแค่เรื่องใบหน้า แต่มีเรื่องเสียงด้วย เสียงสูงที่เกิดขึ้นฉับพลันทันทีที่จ๊ะเอ๋เป็นปัจจัยที่ทำให้เรื่องนี้สนุก อีกทั้งเรื่องความถี่ จ๊ะเอ๋ จ๊ะเอ๋ จ๊ะเอ๋ 3 ครั้งซ้อน เด็กจะหัวเราะตากเหงือกตากหงายไป 3 ท่อนมิได้หายใจ นับเป็นการบริหารทั้งหูชั้นในและปอดไปพร้อม ๆ กัน แต่ที่สำคัญมากคือเป็นช่วงขณะหนึ่งที่ทารกจะมองหน้าแม่ ลูกจะมองเห็นริมฝีปากของคุณแม่ แม่ทำปากแบบไหนจึงได้เสียงออกมาว่า จ๊ะ-เอ๋ นี่มิใช่การฝึกพูด แต่เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ทารกจับสังเกตอย่างจริงจังว่าปากมนุษย์ขยับแล้วมีเสียงออกมา นักฝึกพูดบางท่านก็เริ่มบทเรียนแรกด้วยอะไรที่คล้าย ๆ จ๊ะ-เอ๋

6. จ๊ะเอ๋เป็นการละเล่นที่ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเสมอ หากจ๊ะ-เอ๋แล้วไม่หัวเราะย่อมไม่ใช่จ๊ะเอ๋ มนุษย์เราหัวเราะด้วยกลไกที่ซับซ้อน งานชิ้นนี้เป็นข้อสังเกตของชาร์ล ดาร์วิน ตั้งแต่ปี 1889 มีเขียนไว้ในหนังสือ The Expression of the Emotions in Man and Animals ความว่าเวลามนุษย์หัวเราะ ขั้นแรก กล้ามเนื้อขากรรไกรล่าง Zygoma จะดึงรั้งริมฝีปากและกระพุ้งแก้มออกไปทางด้านข้าง แต่ริมฝีปากบนนั้นกลับจะถูกดึงรั้งขึ้นด้วยกล้ามเนื้อรอบลูกตา คือ Orbicularis oculi เป็นเวลาเดียวกับที่เราหายใจเข้าแล้วทางเดินหายใจถูกสกัดด้วยกล้ามเนื้อกะบังลม
มีงานวิจัยทำกับทารก เวลาทารกเห็นแม่ ทารกจะยิ้มตาปิดลงเล็กน้อย เหตุที่ตาปิดเพราะกล้ามเนื้อรอบลูกตาหดรั้ง เราจะสังเกตเห็นว่าขอบตาล่างมีมัดกล้ามเนื้อชิ้นเล็ก ๆ ปูดขึ้นมา แต่ถ้าทารกเห็นคนอื่น แม้ว่ายิ้มก็ยิ้มเฉพาะกล้ามเนื้อขากรรไกร แต่ไม่ยิ้มด้วยกล้ามเนื้อรอบดวงตา ข้อสังเกตนี้ใช้สังเกตคนที่หัวเราะด้วยความสุขจริง ๆ กับคนที่แค่นหัวเราะได้ด้วย

7. กลไกสำคัญของการเล่นจ๊ะเอ๋ คือ surprise and expectation กล่าวคือ จ๊ะเอ๋เป็นการรักษาสมดุลระหว่างความแปลกใจและความคาดหวัง เด็กคาดหวังว่าเดี๋ยวจะต้องมีใบหน้าพ่อหรือแม่โผล่ออกมาแน่ ๆ ครั้นโผล่ออกมาจริง ๆ ก็ประหลาดใจที่ตนเองคาดหวังถูกต้อง หัวเราะเอิ๊ก ๆ ถ้าคาดหวังแต่ไม่โผล่หน้าออกมาย่อมไม่สนุก ออกมาแต่ไม่เซอร์ไพรส์ก็ไม่สนุก การเล่นจ๊ะเอ๋จึงเป็นทักษะฝ่ายพ่อแม่ด้วย

8. จ๊ะเอ๋ทำให้หัวเราะ หัวเราะเป็นทักษะการสื่อสาร คือ communication skills อย่างแรก ๆ เด็กหัวเราะเพื่อเปิดช่องทางสื่อสาร หัวเราะแล้วโลกเงียบจะเป็นโลกที่น่าเศร้ามาก หัวเราะแล้วใคร ๆ ก็จะมา ร้องไห้แล้วใคร ๆ ก็จะไป เด็กค่อย ๆ เรียนรู้ได้ว่าหัวเราะจะได้อะไร นี่คือการสื่อสาร นักฝึกพูดบางท่านจึงเริ่มต้นที่การทำให้เด็กหัวเราะ บางท่านเก่งมากระดับฝึกกล้ามเนื้อหัวเราะกันทีละมัดเลยทีเดียว

9. แล้วจะทำได้อย่างไร ถามกลับจะทำได้อย่างไรเล่าถ้าไม่อยู่บ้าน การเล่นจ๊ะเอ๋เป็นการเล่นที่ไม่เพียงพ่อแม่ต้องอยู่บ้าน แต่ต้องการใบหน้าของท่านอยู่บ้านด้วย ไม่มีใบหน้าเล่นจ๊ะเอ๋ไม่ได้ ใบหน้านั้นต้องเป็นที่รักมากพอที่กล้ามเนื้อรอบลูกตาจะหดรั้งได้ด้วย แน่นอนท่านจ้างคนอื่นเล่นแทนได้ แต่กล้ามเนื้อรอบลูกตาคงจะไม่หดรั้งเท่าใดนัก

จะเศร้าเพียงใดหากลูกไม่มีคนเล่นจ๊ะเอ๋ด้วย Peekaboo!