กินเค็ม…ไม่ได้พังแค่ไต🧂

0
14

การบริโภคโซเดียมมากเกินไปไม่ได้ส่งผลเสียโดยตรงต่อไตเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว “ทั้งร่างกาย” ของเรากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง! 

 Checklist ความเสี่ยงที่มากับรสเค็มจัด 

🧠 สมอง ➡️ เพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ทั้งแตกและตีบตัน จากภาวะความดันโลหิตสูง 

❤️ หัวใจ ➡️ทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อเกิดภาวะหัวใจโตและภาวะหัวใจวาย 

🩸 หลอดเลือด➡️ความดันโลหิตที่สูงขึ้นจะทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น 

🫘ไต ➡️ อวัยวะด่านหน้าที่ต้องกรองโซเดียมส่วนเกินทิ้ง หากทำงานหนักเกินไปจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น นำไปสู่โรคไตเรื้อรัง 

🦴 กระดูก ➡️โซเดียมดึงแคลเซียมออกจากร่างกาย ทำให้มวลกระดูกลดลง เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนโดยไม่รู้ตัว 

 

ใน 1 วันไม่ควรบริโภคโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัม (สามารถเทียบเท่ากับ): 

  • เกลือป่นประมาณ 1 ช้อนชา 
  • น้ำปลาประมาณ 4–5 ช้อนชา 
  • ซีอิ๊วขาวประมาณ 6 ช้อนชา 

 

สิ่งสำคัญ คือ โซเดียมไม่ได้มาจากเครื่องปรุงรสเค็มเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังแฝงอยู่ในอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น 

  • อาหารแปรรูป ไส้กรอก, แฮม, โบโลน่า 
  • อาหารกึ่งสำเร็จรูป บะหมี่, โจ๊กซอง 
  • ขนมกรุบกรอบ มันฝรั่งทอด 
  • ซอสและน้ำจิ้มต่างๆ 
  • อาหารตามธรรมชาติ ก็มีโซเดียมอยู่แล้วในปริมาณหนึ่ง 

 

การชิมก่อนปรุงและอ่านฉลากโภชนาการเพื่อดูปริมาณโซเดียมก่อนรับประทาน จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมไม่ให้ร่างกายได้รับโซเดียมเกินความจำเป็นในแต่ละวัน 

 

#โซเดียม #ลดเค็มลดโรค #กินเค็ม #โซเดียมสูง #โรคไต #ไตวาย #ความดันโลหิตสูง #โรคหัวใจ #โรคหลอดเลือดสมอง #กระดูกพรุน 

 

เอกสารอ้างอิง 

  • กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข: https://ddc.moph.go.th/  
  • สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.): https://www.thaihealth.or.th/