เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับช็อกโกแลต

นพ.ชวโรจน์ เกียรติกำพล

0
5606
ช็อคโกแลต

ช็อคโกแลต (Chocolate) นั้นจัดเป็นอาหารยอดนิยมอย่างยาวนานในหลายประเทศ โดยในช่วงหลัง ๆ ช็อคโกแลตได้ถูกพัฒนาสูตรการผลิตออกไปอย่างมากมายและหลากหลาย ทำให้ครองใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่แทบทุกคนที่ได้ลองลิ้มรส อย่างไรก็ตามเมื่อรับประทานกันมากขึ้น คำถามถึงประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพจึงเกิดขึ้นตามมา

ในช่วงเดือนของวันแห่งความรักนี้ ช็อคโกแลตเป็นหนึ่งในของขวัญที่หลายคนคิดถึงและมอบให้กัน หมอจึงขอเล่าถึงประโยชน์ของช็อคโกแลตผ่านงานวิจัยต่าง ๆ ที่มีหลักฐานยืนยันในปัจจุบัน เผื่อผู้อ่านจะได้นำไปประกอบและยืนยันแก่ผู้รับในแง่ของประโยชน์ของช็อคโกแลตที่นอกเหนือไปจากความอร่อย ไม่แน่นะครับว่าผู้ที่ได้รับช็อตโกแลตจากท่านผู้อ่านในปีนี้อาจปลื้มใจมากขึ้นไปอีกไม่มากก็น้อย

ชนิดของช็อคโกแลต

ในบรรดาช็อคโกแลตหลากหลายที่มีในปัจจุบัน ช็อคโกแลตชนิดที่ได้รับการยอมรับและมีรายงานว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดคือ ช็อคโกแลตชนิดดำ (Dark chocolate) ซึ่งมีความแตกต่างจากชนิดอื่น ๆ คือ การผสมนมวัว วานิลลา เพื่อให้สีและกลิ่นน่าดื่ม โดยช็อคโกแลตชนิดดำนี้จะมีโกโก้มากกว่าหรือเท่ากับ 70-80% ของปริมาณทั้งหมด และมักเก็บในรูปแท่ง เมื่อนำมาดื่มก็จะเอามาละลายและทำให้อุ่น ปกติแล้วจะมีรสชาติขมมาก จึงต้องอาศัยการปรุงรสพอควร แต่หมอคิดว่าเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ อาจทำให้ผู้อ่านเปลี่ยนใจก็ได้นะครับ

มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับช็อคโกแลตอยู่หลายเรื่อง โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ต่างพบว่าช็อคโกแลตนั้นมีผลดีต่อการทำงานของหัวใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และการทำงานของสมอง และยังอาจมีผลดีในผู้ป่วยโรคอ้วนและเบาหวานอีกด้วย หมอขอสรุปผลดีของช็อคโกแลตที่มีต่อสุขภาพดังนี้ครับ

1. ผลดีต่อการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต

มีงานวิจัยที่พบว่าสารเคมีที่ชื่อ flavanols ในช็อคโกแลตชนิดดำนั้นช่วยกระตุ้นให้ผนังหลอดเลือดแดง (arteries) มีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีผลทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงได้เล็กน้อย ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เม็ดเลือดขาวยึดเกาะกับผนังหลอดเลือดมากเกินไป เป็นการช่วยลดการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน

2. ผลดีในการลดความเสี่ยงการเกิดหลอดเลือดสมองตีบตัน (Stroke)

มีงานวิจัยที่ทำในประเทศฟินแลนด์พบว่า คนที่รับประทานช็อคโกแลตมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตันลดลงประมาณ 17 เปอร์เซนต์โดยเฉลี่ย นับเป็นเรื่องที่หมอคิดว่าน่าสนใจมาก แต่ทั้งนี้เราคงต้องรอผลงานวิจัยเพิ่มเติมกันต่อไปอีกสักหน่อยครับ

3. เต็มเปี่ยมด้วยใยอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์

โดยในช็อคโกแลตชนิดดำที่มีคุณภาพดีคือมีปริมาณผงโกโก้อยู่ที่ 70-85% นั้น จะประกอบด้วยใยอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ทองแดง โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี และซีลีเนียม นอกจากนี้ในโกโก้ของช็อคโคแลตนั้นยังมีสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทช่วยให้ตื่นตัวคล้ายกับคาเฟอีนแต่มีความแรงน้อยกว่ามมากครับ

4. ช็อคโกแลตชนิดดำสามารถเพิ่มระดับไขมันชนิดดี และลดระดับไขมันชนิดไม่ดี 

ในงานวิจัยพบว่าผงโกโก้นั้นสามารถลดระดับไขมันชนิดไม่ดีคือ LDL ลงได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งนี้ยังสามารถเพิ่มระดับไขมันชนิดดีคือ HDL ได้ด้วย ส่งผลให้ไขมันชนิดไม่ดีนั้นสามารถทำอันตรายผนังหลอดเลือดแดงในหัวใจของเราได้น้อยลง นอกจากนั้นยังพบว่าช็อคโกแลตชนิดดำสามารถลดระดับภาวะการดื้อต่ออินซูลินลงได้ด้วย ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญต่อการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจอีกด้วยครับ

5. มีผลดีต่อผิวหนัง

มีการพบว่าสาร flavanols ในช็อคโกแลตนั้นสามาถป้องกันผิวหนังของเราจากความเสียหายหลังการสัมผัสกับแสงแดดที่รุนแรง เพิ่มความสามารถในการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงผิวหนัง ทั้งนี้ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังได้อีกด้วย สิ่งเหล่านี้คงมีประโยชน์มากนะครับในเมืองร้อนอย่างเรา

6. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

มีงานวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการรับประทานช็อคโกแลตที่มีสาร flavanols ในผงโกโก้ในขนาดสูงจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงสมอง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความจำในผู้สูงอายุที่ปัญหาด้านความจำอีกด้วย เชื่อว่าเป็นเพราะการที่โกโก้นั้นมีสารกระตุ้นระบบประสาทคล้ายกาแฟนั่นเองครับ

7. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

ในเรื่องนี้มีงานวิจัยหลายงานวิจัยที่สมาคมแพทย์โรคหัวใจอเมริกา AHA อ้างถึง โดยเฉพาะสาร flavonoids นับว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม โดยพบว่ามีปริมาณสูงมากในช็อคโกแลตชนิดดำเมื่อเทียบกับผลไม้ต่าง ๆ รวมถึงคู่แข่งอย่างชาเขียว ซึ่งสารนี้มีผลในการลดความดันโลหิต ทำให้การทำงานของฮอร์โมนอินซูลินดีขึ้น และมีวารสารที่กล่าวถึงการลดการอักเสบในร่างกายมากมายครับ

สุดท้ายนี้หมอต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้เชิญชวนให้ผู้อ่านรับประทานช็อคโกแลตกันทุกวัน อย่าลืมว่าทุกอย่างนั้นปฏิบัติตามทางสายกลางดีที่สุดครับ เพราะช็อคโกแลตเองก็ยังจัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานในระดับสูง และที่สำคัญหากได้ลิ้มรสแล้วก็ยากที่จะหยุดเสียด้วยใช่มั้ยครับ นอกจากนี้อย่าลืมว่าช็อคโกแลตที่ได้รับการแนะนำว่ามีประโยชน์คือ ช็อคโกแลตชนิดดำ ซึ่งมักมีรสชาติค่อนข้างขม อาจไม่ได้อร่อยเหมือนช็อคโกแลตชนิดอื่น ๆ ทั่วไปครับ

 

Resource : HealthToday Magazine, No.202 February 2018