ตับแข็ง เป็นสภาวะของตับที่พบได้บ่อยจากหลายสาเหตุ แต่ที่พบบ่อยและประชาชนควรทราบ คือ ดื่มแอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ) มากเกินไป, โรคไวรัสตับอักเสบ, โรคไขมันลงตับ, พิษจากยาหรือสารพิษ, ปัญหาระบบ
ภูมิต้านทาน, ปัจจัยทางพันธุกรรม และอื่น ๆ
โรคพิษสุราเรื้อรัง
เกิดจากการดื่มเหล้ามากและนานเกินไป เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของตับแข็ง ประมาณครึ่งหนึ่งของการตายจาก
ตับแข็งเกิดจากแอลกอฮอล์ ความเสียหายของตับจากการดื่มแอลกอฮอล์มีในรูปแบบหรือขั้นตอนจากน้อยไปมาก คือ
- ไขมันพอกตับจากเหล้า (Alcoholic fatty Liver [Steatosis]) คนดื่มมากจะมีไขมันพอกพูนในตับมาก อาจจะไม่มีอาการใด ๆ แต่บางคนตับจะโตขึ้นจนคลำได้ ในระยะนี้ความเสียหายจากตับอาจจะรักษาให้กลับคืนมาได้ถ้าหยุดดื่มเหล้า
- ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ (Steatohepatitis) คนที่ยังคงดื่มอยู่เรื่อย ๆ ความเสียหายของตับจะพัฒนาไปเป็นการอักเสบ ซึ่งเป็นความเสียหายระยะกลาง ยังคงสามารถรักษาให้กลับคืนมาได้ถ้าเลิกดื่ม
- ตับแข็ง (Cirrhosis อ่านว่า เซอ-โร-สิส) เกิดจากการดื่มเหล้าไม่หยุด คนดื่มไม่หยุดอาจเกิดตับแข็งได้
10-20% แต่เมื่อถึงระยะนี้ความเสียหายของตับไม่สามารถแก้ไขกลับคืนมาได้แล้ว แต่สามารถทำให้มันคงตัวได้โดยเลิกดื่มเหล้าอย่างเด็ดขาด
ถ้าคุณมีสภาวะตับแข็งจากการดื่มคุณต้องเลิกเหล้าเด็ดขาด ซึ่งจะมีผลดีทำให้ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนและอาการจากโรคตับเพิ่มขึ้น
โรคตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัส (Chronic viral hepatitis)
การอักเสบของตับมีอยู่หลายชนิดคือ ชนิดเอ, บี และซี ตับอักเสบชนิดเอเกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดเอซึ่งติดต่อกันทางการกิน ชนิดนี้มักไม่ก่อให้เกิดตับแข็ง ส่วนชนิดบีและซีซึ่งติดต่อกันทางกระแสเลือด (ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน,
เพศสัมพันธ์) ทำให้เกิดการอักเสบ สภาวะตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งตับได้ คนในเอเชียมีโรคนี้ชุก (ประมาณ 10%) บางคนมีเชื้อในตัวโดยไม่รู้ คนเป็นโรคตับอักเสบจากไวรัสบีมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับแม้ว่าตับยังไม่แข็ง ตับอักเสบชนิดเอและบีมีวัคซีนป้องกันได้ เด็กทารกสมัยใหม่มักจะได้รับวัคซีนนี้ แต่ชนิดซียังไม่มีวัคซีนป้องกัน
โรคไขมันพอกตับ (Nonalcoholic fatty liver disease; NAFLD คือ ไขมันพอกตับชนิดที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์)
ปัจจุบันมีโรคนี้มากขึ้นเนื่องจากเป็นโรคที่มากับความอ้วนซึ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก มักเกิดในคนวัยกลางคนขึ้นไป สัมพันธ์กับเบาหวานชนิดที่ 2 และกลุ่มอาการเมตาบอลิก (Metabolic syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มอ้วนพุงโต มีความต้านทานต่ออินซูลิน ความดันโลหิตสูง ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง โรคนี้ส่วนมากไม่ค่อยร้ายแรง แต่มีอยู่ราว 20% ที่มีความรุนแรงเรียกว่า Nonalcoholic steatohepatitis (NASH) ซึ่งมีการอักเสบของตับที่อาจจะนำไปสู่สภาวะตับแข็ง ตับล้มเหลว หรือมะเร็งตับ NAFLD มีมากขึ้นเรื่อยตามโรคอ้วน ภาวะนี้มักจะสัมพันธ์กับโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุการตายมากที่สุดในคนไข้กลุ่มนี้
ตับบาดเจ็บจากยาหรือสารพิษ
ตับบาดเจ็บจากยาพบได้บ่อยพบจากการกินยามากเกินไป ยาที่จ่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกรหรือสารเสริมอาหารและสมุนไพรสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อตับได้ทั้งนั้น ควรระวังการใช้สารธรรมชาติหรือสมุนไพรที่อ้างว่าสามารถลดความอ้วนหรือเพิ่มกล้ามเนื้อหรือสมรรถภาพทางเพศ
การกินยาอะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) ที่มีขายอยู่ทั่วไป มีหลายยี่ห้อที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ “พารา” หรือ “พาราเซ็ต” มันยังมีอยู่ในรูปยาผสมกับยาอย่างอื่นอีกมากมายเช่นยาแก้หวัด ยานี้ถ้ากินในขนาดที่แนะนำคือ
วันละไม่เกิน 4 กรัม หรือเม็ดละ 500 มิลลิกรัม ไม่เกิน 8 เม็ดต่อวันก็มักจะปลอดภัย แต่ถ้ากินมากกว่านั้นอาจจะ
เป็นพิษต่อตับโดยเฉพาะถ้ากินร่วมกับสารเคมีที่เป็นพิษอย่างอื่น เช่นแอลกอฮอล์ หรือโดนสารเคมีบางอย่างในอุตสาหกรรม
ปัญหาระบบภูมิต้านทานต่อตัวเอง
บางชนิดทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบตับและระบบท่อน้ำดี โดยเซลล์ของระบบภูมิต้านสร้างสารภูมิต้านทานมาทำอันตรายต่อตับหรือท่อน้ำดีทำให้เกิดการอักเสบ โรคของท่อน้ำดี 2 ชนิดที่เรียกว่า Primary biliary cholangitis และ Primary sclerosing cholangitis สร้างปัญหาทำให้มีการอักเสบอุดตันของท่อน้ำดี น้ำดีคั่ง เกิดอาการดีซ่าน มีผลให้เกิดความเสียหายของท่อน้ำดีลามย้อนกลับไปทางต้นน้ำซึ่งนาน ๆ ไปจะเกิดสภาวะตับแข็ง
ปัจจัยทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมหลายโรคทำให้เกิดความเสียหายของตับ เช่น ภาวะมีธาตุเหล็กมากเกิน (Hematochromatosis) ธาตุทองแดงมากเกิน (Wilson’s disease) โรคขาดสารโปรตีนสำคัญคือ Alpha-1-antitrypsin
สาเหตุอย่างอื่นที่ทำให้เกิดสภาวะตับแข็งมีอีกมาก เช่น การติดเชื้อหลายอย่าง ภาวะที่เรียกว่า Cystic fibrosis, Celiac disease, Sarcoidosis และสาเหตุที่ยังไม่มีใครรู้ก็มี
เมื่อรู้สาเหตุอย่างนี้แล้วไม่อยากเกิดสภาวะตับแข็ง ตับล้มเหลว มะเร็งตับ ก็ควรระวังป้องกันมันไว้
|
Resource: HealthToday Magazine, No.205 May 2018