ใคร ๆ ก็เป็นมะเร็ง ในปีที่ผ่านมาคนดัง ๆ อย่างเช่น แม่ชีศันสนีย์ ปาล์ม ก็เป็นมะเร็ง เช่นเดียวกับคนไทยอีกเกือบ 120,000 คน มะเร็งจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป คนในโลกนี้ 10 ล้านคนทุกปีเริ่มเป็นมะเร็ง ถึงกับมี “วันมะเร็งโลก” ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถ้าคุณเป็นมะเร็งตอนนี้ คุณมีเพื่อนเยอะ
คนไทยเป็นมะเร็งมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เพราะคนไทยอายุยืนขึ้น มะเร็งเป็นโรคแห่งความเสื่อม อัตราการเกิดมะเร็งจะสูงขึ้นตามอายุ ถ้าเราอายุเกินร้อยปี ทุกคนก็คงจะเป็นมะเร็งที่ใดที่หนึ่งในที่สุด การรักษาก็ดีขึ้น มีคนรอดมาเล่าเรื่องราวให้เพื่อนฟังมากขึ้น เราจึงรู้สึกเหมือนว่ามะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่ที่จริงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยภาพรวมแล้วคนไทยเป็นมะเร็งน้อยกว่าประเทศอื่นทั่วโลก คือเพียง 143 รายต่อประชากรแสนคนต่อปี น้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก (182 ต่อแสน) อัตราตายจากมะเร็งของคนไทยก็น้อยกว่าประเทศอื่น คือ 104 รายต่อประชากรแสนคนต่อปี เป็นอันดับที่ 91 ของโลก (จาก 196 ประเทศ) การที่มะเร็งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของสาเหตุตายของคนไทยและประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลายก็เป็นเรื่องดีแล้ว หรือว่าคนควรจะตายมากที่สุดด้วยเหตุอื่น เช่น อุบัติเหตุ? ฆาตกรรม? หรือ โรคหัวใจ?
ทำไมคนไทยจึงเป็นมะเร็งน้อย
ก็เพราะเรามีการสูบบุหรี่น้อยกว่าประเทศอื่น บุหรี่เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดในการเกิดมะเร็ง ด้วยการรณรงค์ต่อเนื่องของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และ สสส. อัตราสูบบุหรี่ของชายไทยขณะนี้เหลือเพียง 37.4% และผู้หญิงเพียง 2% สูบบุหรี่ แต่ตัวเลขนี้ยังไม่ดีพอ เราพึงช่วยกันรณรงค์ต่อเนื่อง และสนันสนุนมาตรการที่ได้ผล คือ การเพิ่มการเก็บภาษีบุหรี่ให้แพงขึ้นเรื่อย ๆ เพิ่มพื้นที่ปลอดบุหรี่ ขัดขวางการโฆษณา มิให้เด็กรุ่นใหม่เข้าถึง และคนเก่าเลิกสูบไปเอง
นอกจากบุหรี่แล้ว ความอ้วนก็เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็ง การกินเหล้าก็เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง อาหารบางอย่างก็เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง การชวนกันออกกำลัง ลดน้ำหนัก การงดเหล้าบุหรี่ รณรงค์อาหารปลอดภัย งดอาหารปิ้งย่าง งดปลาก้อยปลาดิบ และอาหารปนเปื้อนสารเคมี รณรงค์ลดแป้งและน้ำตาล ย่อมลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งก่อนวัย และลดความเสี่ยงเบาหวาน และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ด้วย
มะเร็งสำคัญสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีจะป้องกันเด็กรุ่นใหม่มิให้เป็นมะเร็งตับ มีการฉีดวัคซีนนี้ให้เด็กรุ่นใหม่ทุกคนมาแล้วเกือบ 30 ปี วัคซีนเอ็ชพีวีจะป้องกันเด็กหญิงรุ่นใหม่จากมะเร็งปากมดลูก ทุกคนเริ่มเข้าถึงวัคซีนนี้แล้ว แต่ต้องรอเวลาอีกหลายสิบปีกว่าที่มะเร็งสองอย่างนี้จะลดลง
ตรวจพบระยะแรก ๆ หายขาดได้
ถึงแม้เราจะดูแลสุขภาพ เราก็ไม่สามารถป้องกันมะเร็งได้ทุกชนิด แต่ถ้าตรวจพบระยะแรก ๆ จะสามารถหายขาดได้ เราจะรอให้มีอาการก่อนไม่ได้ ต้องพาตัวเองไปรับการตรวจกรองหามะเร็ง มะเร็งที่ตรวจกรองได้มีไม่กี่ชนิดคือ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ สตรีทุกคนที่ยังมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย ควรไปตรวจภายในเพื่อหามะเร็งปากมดลูกทุก 5 ปี ตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป พึงเรียนรู้วิธีตรวจเต้านมด้วยตนเอง หรือรับการตรวจเอกซเรย์ แมมโมแกรม ทุก 2 ปี ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้ชายทุกคนแม้ยังมีสุขภาพดีควรรับการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้องทางทวารหนักทุก 5 ปี ตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป มะเร็ง 3 อย่างนี้หากตรวจพบในระยะแรก อาจรักษาหายขาดโดยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวร่วมกับการรักษาที่แพทย์แนะนำ มะเร็งชนิดอื่นมักไม่สามารถตรวจกรองได้ง่ายนัก เมื่อตรวจพบก็อาจจะรักษาได้ หรือรักษายาก ดังนั้นโรคมะเร็งที่ตรวจกรองได้ก็ชวนกันก้าวข้ามความน่าอาย และพาตัวเองไปตรวจเถิด
ประเทศไทยเป็นเพียงหนึ่งใน 56 ประเทศทั่วโลกที่มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกชื่นชมประเทศไทยว่า ประสบความสำเร็จโดยการบริหารที่มีประสิทธิภาพอย่างสูง แม้งบประมาณจำกัดทุกคนก็เข้าถึงการรักษาได้ ผู้ที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้รู้ว่าเป็นมะเร็งที่รักษาได้หรือว่ารักษายาก ถ้ารักษาได้ เช่น มะเร็งระยะแรก ระยะ 0, 1, 2 คุณหมอทุกคนก็อยากรักษาให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ขอให้ผู้ป่วยอดทนรับการรักษาเพื่อโอกาสหายขาด อย่าเพิ่งทดลองทางเลือกอื่นที่ไม่มีหลักฐานว่าทำให้หายขาดได้ เรามีผู้ที่เคยป่วยมากมายที่รอดจากมะเร็งมาเป็น เพื่อนมะเร็งไทย ที่พร้อมจะให้กำลังใจท่าน
แต่ถ้าหากรักษาไปแล้วไม่หาย คือมะเร็งกลับมาใหม่ หรือคุณหมอบอกว่าเป็นมะเร็งที่รักษายาก หรือกระจายไปแล้ว เช่น ระยะ 3, 4 ผู้ป่วยย่อมมีทางเลือกที่จะรักษาตามมาตรฐาน แต่คงไม่หายขาด ถ้าจ่ายเงินได้ก็อาจจะมียาใหม่ ๆ ที่ยืดอายุไปได้เรื่อยแม้ไม่หายขาด จนกระทั่งเงินหมด บริษัทยาข้ามชาติก็จะดีใจมาก หรือจะพิจารณาทางเลือกที่มีมากมายในเมืองไทย เช่น การแพทย์แผนไทย แผนจีน ยาสมุนไพร กระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ หรือจะปรึกษาผู้มีความสามารถทางจิตวิญญาณ พระสงฆ์ สำหรับผู้ที่เข้าใจสัจจธรรมก็สามารถวางแผนใช้ชีวิตให้เต็มที่ อยู่กับมะเร็งอย่างสันติ ใช้เงินเก็บไปเพิ่มคุณภาพชีวิตแทนที่จะจ่ายโรงพยาบาล ถ้าไม่กลัวตายแล้วละก็ ยุคนี้ไม่ต้องกลัวทรมานด้วยมะเร็งหรือการรักษาก่อนตาย ปรึกษาแพทย์พยาบาลด้านประคับประคอง หรือปรึกษาเพื่อน เช่น เพื่อนมะเร็งไทย หรือ ชีวามิตร
ผู้ป่วยมะเร็งหลายคนขอบคุณที่เป็นมะเร็ง พวกเขารายงานว่าการเป็นมะเร็งทำให้เข้าใจชีวิตว่าที่ผ่านมาช่างไร้สาระ เมื่อตระหนักว่าความตายอยู่ตรงหน้าจึงได้คิดว่าเขาเกิดมาเพื่ออะไรกันแน่ จัดลำดับความสำคัญเสียใหม่ ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย ทำเพื่อคนอื่นเป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิง
- Cancer incidence by countries จาก http://www.wcrf.org/int/cancer-facts-figures/data-cancer-frequency-country
- อัตราตายจากมะเร็ง จาก http://www.worldlifeexpectancy.com/cause-of-death/all-cancers/by-country/
- อัตราการสูบบุหรี่ จาก http://www.tobaccoatlas.org/country-data/thailand/
Resource: HealthToday Magazine, No.203 March 2018