หลายคนคงเคยมีประสบการณ์เวียนศีรษะจนบ้านหมุนมาบ้างไม่มากก็น้อย และแทบทุกคนที่เคยมีอาการนี้คงจดจำประสบการณ์นั้นได้ไม่รู้ลืม วันที่ลุกขึ้นจากที่นั่งหรือเตียงนอนตามปกติ แต่ทุกสิ่งทุกย่างรอบตัวกลับไม่ปกติ เหมือนบ้านทั้งหลังและโลกทั้งใบหมุนติ้วไปมาไม่ยอมหยุดจนคุณต้องยอมจำนนต่ออาการนี้โดยการทรุดตัวลงนอนแต่โดยดี แต่ถึงคุณยอมจำนนขนาดนั้น เจ้าอาการนี้ก็ไม่ยอมปล่อยคุณไปง่ายๆ ยังคงจับคุณเหวี่ยงหมุนไปมา จนบางครั้งคุณถึงขั้นอาเจียนออกมาจนอ่อนเพลีย อาการเช่นนี้มีสาเหตุจากอะไรได้บ้างและเรามีวิธีเบื้องต้นในการรับมืออย่างไร เชิญอ่านต่อกันได้เลยครับ
โรคเวียนศีรษะจนบ้านหมุน ตรงกับศัพท์ทางการแพทย์ว่า Vertigo ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุตั้งแต่ที่รุนแรงน้อยซึ่งพบได้บ่อย จนถึงรุนแรงมาก ตามปกตินั้นการทรงตัวและการก้าวเดินของคนเราต้องอาศัยอวัยวะหลายส่วนที่ทำงานประสานสอดคล้องกันอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่ระบบการรับภาพ อวัยวะการทรงตัวในหูชั้นใน ระบบประสาทรับสัมผัสต่างๆ ที่จะคอยให้ข้อมูลแก่สมองส่วนหลัง หรือบางท่านเรียกว่า สมองน้อย (Cerebellum) ว่าในขณะนั้นร่างกายเราดำรงอยู่ในตำแหน่งไหน เคลื่อนไหวอย่างไร ซึ่งหากมีความผิดปกติใดๆ ก็ตามเกิดขึ้นในส่วนใดส่วนหนึ่งก็จะส่งผลต่อการทรงตัวและการเคลื่อนไหวของร่างกายทันที ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะที่รุนแรงจนบ้านหมุนขึ้นมาได้
ตัวอย่างโรคที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะจนบ้านหมุนที่พบได้บ่อย
- โรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่าทาง เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบได้บ่อยที่สุด โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน จึงพบมากในผู้สูงอายุ อาการเฉพาะของโรคนี้คือ อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่เกิดขึ้นทันทีทันใดในขณะเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ เช่น ระหว่างกำลังล้มตัวลงนอนหรือลุกจากที่นอน เงยหน้า ก้มหยิบของ เป็นต้น อาการมักจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ เป็นแค่ช่วงวินาทีที่ขยับศีรษะ แล้วอาการจะค่อยๆ หายไป
- โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่าอาการของโรคเป็นผลจากความผิดปกติของน้ำที่อยู่ภายในหูชั้นใน ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุนอย่างรุนแรง ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการเวียนศีรษะที่เกิดจากโรคนี้อาจนานเป็นนาทีจนถึงหลายชั่วโมง ซึ่งในระหว่างที่เกิดอาการ ผู้ป่วยควรอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับศีรษะ เพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังอาจมีการได้ยินลดลงและมีเสียงดังในหูได้ด้วย
- โรคอื่นๆ เช่น โรคเนื้องอกของประสาทการทรงตัวหรือเส้นประสาทการได้ยิน การอักเสบของหูชั้นใน เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เป็นต้น
เมื่อเวียนศีรษะบ้านหมุน…
- หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะในระหว่างเกิดอาการ เช่น การหมุนหันศีรษะเร็วๆ การเปลี่ยนแปลงท่าทางอิริยาบถอย่างรวดเร็ว
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มสุราหรือการสูบบุหรี่
- ไม่ควรอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การขับขี่ยานพาหนะ หรืออยู่ในที่สูง
รับมือบ้านหมุน
ผู้เขียนขอแนะนำวิธีฝึกบริหารเพื่อช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะแบบง่ายๆ และสามารถทำได้เองมาให้ลองทำเมื่อมีอาการ การบริหารแบบนี้มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Brandt – Daroff exercise มีขั้นตอนดังนี้
- เริ่มต้นในท่านั่งตัวตรง
- ล้มตัวลงนอนในท่าตะแคงข้างใดข้างหนึ่งโดยให้ใบหน้าหรือปลายจมูกชี้ขึ้นทำมุมประมาณ 45 องศา
- ค้างอยู่ในท่านอนนั้นอย่างน้อยประมาณ 30 วินาทีจนอาการเวียนศีรษะหายไป จากนั้นจึงกลับสู่ท่านั่งตัวตรงตามเดิม
อย่างไรก็ตามในผู้ที่มีอาการมากจนคลื่นไส้อาเจียน การฝึกบริหารด้วยวิธีต่างๆ อาจไม่เหมาะ ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจะดีกว่าครับ
Resource : HealthToday Magazine, No. 177 January 2016