โลกส่วนตัวของวัยรุ่น

หลายท่านคงผ่านช่วงระยะเวลาของการเป็นวัยรุ่นกันมาแล้ว ว่ากันว่าช่วงวัยรุ่นนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขมากที่สุดทีเดียว ได้สนุกสนานเฮฮา ไม่มีความทุกข์ใด ๆ นี่พูดถึงวัยรุ่นสมัยก่อนโน้นนะคะ สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ค่อนข้างจะสับสนวุ่นวาย คงเป็นเพราะมีสิ่งล่อตาล่อใจมากมายเหลือเกินทั้งเกม แฟชั่นการแต่งตัว และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ มากมาย

ดิฉันว่าการเป็นวัยรุ่นสมัยนี้ลำบากกว่าสมัยก่อนแน่นอน ไหนจะต้องขะมักเขม้นกับการเรียนที่ต้องแข่งขันกันอย่าง
เอาเป็นเอาตาย ไหนจะต้องตามเทรนด์แฟชั่นให้ทันกับเพื่อน ๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนตกเทรนด์ บรรดาคุณพ่อคุณแม่
ที่มีลูกเข้าสู่วัยรุ่นสมัยนี้ต่างก็กุมขมับกันทั้งนั้น กลัวลูกจะติดยาเสพติด ติดเล่นเกมออนไลน์ ติดเล่นอินเตอร์เน็ต ชิงสุกก่อนห่าม ฯลฯ ผู้ที่มีความรับผิดชอบในเรื่องนี้ต่างก็พยายามช่วยกันดูแลเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ยังมีข่าวด้านลบของเยาวชนวัยรุ่นออกมาบ่อย ๆ

ดิฉันได้มีโอกาสคุยกับครอบครัวที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่นหลายครอบครัว ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สภาพสังคมปัจจุบันนี้น่ากลัวมาก และสิ่งเดียวที่จะช่วยไม่ให้ลูกหลงทางก็คือ ครอบครัวที่อบอุ่นเท่านั้นค่ะ ครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกเข้าใจซึ่งกันและกัน ลูกมีความสุขกาย สบายใจเมื่ออยู่ที่บ้าน ถือเป็นเกราะป้องกันชั้นเยี่ยมที่จะไม่ให้ลูกวัยรุ่นหลงทางได้

ข้อมูลของสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นอธิบายถึงลักษณะนิสัยของวัยรุ่น (อายุ 12 ปีขึ้นไป) ว่าเป็นวัยที่มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อ่อนไหวง่าย บวกกับต้องการเป็นตัวของตัวเองสูง ต้องการอิสระ และอยากเป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ มากกว่าคนในครอบครัว ดังนั้นพ่อแม่จึงควรเตรียมความพร้อมในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับลูก พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือดูแลลูกวัยรุ่นไม่ให้ออกไปพบกับสิ่งยั่วยวนนอกบ้าน สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้คือการจัดสถานที่ในบ้านให้ลูกวัยรุ่นได้อยู่ในโลกส่วนตัว มีอิสระ ไม่มีใครรบกวน นั่นก็คือการมีห้องส่วนตัวนั่นเอง และห้องส่วนตั๊ว…ส่วนตัวที่ว่านี้ก็คือ ‘ห้องนอน’ ค่ะ

ห้องนอนสำหรับลูกวัยรุ่น

ห้องนอนสำหรับลูกวัยรุ่นอาจปรับเปลี่ยนมาจากห้องนอนเดิมเมื่อครั้งยังเป็นเด็กเล็ก ซึ่งอาจปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์
จัดตกแต่งใหม่เพื่อให้เข้ากับสไตล์และประโยชน์ใช้สอย เพราะเมื่อเด็กย่างเข้าสู่วัยรุ่นจะเริ่มมีโลกส่วนตัว มีกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น เขาจะมีสไตล์ความชอบส่วนตัวซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่าอาจไม่ใช่สไตล์ที่คุณพ่อคุณแม่ชอบทั้งหมด

ดังนั้นข้อแรกในการเริ่มตกแต่งห้องลูกวัยรุ่น คือ ต้องถามความต้องการของเขาก่อนว่าชอบที่จะให้ห้องนอนของตัวเองเป็นอย่างไร สีอะไร อยากตกแต่งสไตล์ไหน ถ้าเป็นผู้หญิง ส่วนใหญ่ก็จะออกไปในแนวหวาน ๆ ชวนฝัน กุ๊กกิ๊ก น่ารัก สำหรับผู้ชายมักจะเป็นแนวสปอร์ต กีฬา หรือดนตรี พอได้แนวทางแล้วก็เริ่มลงมือกันเลยค่ะ

หากห้องนอนมีขนาดใหญ่ เนื้อที่ใช้สอยมาก ให้แบ่งห้องออกเป็นส่วน ๆ เช่น มุมสำหรับนอน พื้นที่ทำการบ้าน
มุมพักผ่อน มุมแต่งตัว เป็นต้น คราวนี้มาดูกันว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ควรมีในแต่ละส่วนของห้องนั้นมีอะไรบ้าง

• มุมสำหรับนอน (Sleeping space) เฟอร์นิเจอร์หลัก คือ เตียงนอน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนขนาดของเตียงใหม่ให้ใหญ่ขึ้น หลังจากเขานอนเตียงสำหรับเด็กมานานหลายปี ที่สำคัญคือ ต้องเปลี่ยนฟูกที่นอน
  เครื่องนอนใหม่ทั้งหมด เพราะของเดิมที่ใช้มานานอาจมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์เสื่อมอายุการใช้งาน ที่นอนก็มีอายุ
  การใช้งานเหมือนกันนะคะ หากใช้มาเกิน 10 ปีก็ควรเปลี่ยนใหม่ได้แล้วค่ะ ควรใช้เตียงประเภทขาโปร่งคือไม่มีพื้นที่ทึบใต้เตียง เพื่อการทำความสะอาดได้สะดวก และถ้ามีพื้นที่กว้างพอควรมีเตียงนอนแบบ sofa bed ไว้สำหรับต้อนรับเพื่อน ๆ ที่มาเยี่ยมเยียนหรือมานอนด้วย ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนโซฟาขนาดใหญ่ สามารถปรับเปลี่ยนจากใช้นั่งมาเป็นเตียงสำหรับนอนได้ รับรองว่าลูกวัยรุ่นต้องถูกใจไม่เที่ยวไปนอนค้างบ้านเพื่อนแน่ ๆ เพราะเพื่อนจะมานอนที่บ้านแทน ควรมีโคมไฟไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงเผื่อไว้สำหรับอ่านหนังสือก่อนนอน
• มุมสำหรับแต่งตัว (Dressing space) เป็นที่ทราบกันดีว่าวัยรุ่นนั้นช่างแต่งตัวเหลือหลาย ดังนั้นจึงมีเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว เครื่องประดับมากมาย ตู้เสื้อผ้าที่ใหญ่ จุของได้มากจึงเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญของวัยนี้ นอกจากตู้แล้ว กระจกบานใหญ่ก็เป็นที่ต้องการค่ะ เพราะเขาและเธอจะใช้เวลาหน้ากระจกนานมากกว่าจะออกจากบ้านได้
• มุมทำการบ้าน (Study and work space) เริ่มเรียนชั้นสูงขึ้น การบ้าน รายงานต่าง ๆ ก็มากขึ้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือโต๊ะสำหรับทำการบ้าน ซึ่งควรมีขนาดใหญ่พอสมควร เพราะต้องรองรับเครื่องคอมพิวเตอร์ พรินเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ โต๊ะควรมีชั้นสำหรับใส่อุปกรณ์เครื่องเขียน กระดาษ แผ่นซีดี ฯลฯ แล้วก็ต้องมีเก้าอี้ด้วย การเลือกเก้าอี้นั้นควรพิถีพิถันในการเลือกหน่อย ควรเป็นเก้าอี้ที่เหมาะสำหรับอายุและสรีระของลูกวัยรุ่น ที่สำคัญต้องแข็งแรง สามารถรองรับแผ่นหลังได้เพื่อป้องกันการปวดหลังหากนั่งนาน ๆ
• มุมพักผ่อน (Entertaining space) เป็นมุมที่ใช้สำหรับพักผ่อน ต้อนรับเพื่อนฝูง หรือทำกิจกรรมอดิเรก
  มุมนี้จึงมักมีข้าวของค่อนข้างมาก เช่น ของสะสม ของเล่น โทรศัพท์ส่วนตัว เด็กวัยรุ่นมักชอบคุยโทรศัพท์บ่อย ๆ และคุยนาน ซึ่งมักเป็นปัญหากับคุณพ่อคุณแม่จนบางครั้งถึงขั้นทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่พิจารณาดูแล้วว่าการคุยโทรศัพท์ของลูกวัยรุ่นนั้นไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการเรียนก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะนิสัยของวัยรุ่นอย่างหนึ่งคือมักมีเรื่องที่ต้องพูดคุยปรึกษากับเพื่อนตลอดเวลา ยิ่งเดี๋ยวนี้เขาเล่นเกมออนไลน์ด้วยกัน ยิ่งคุยโทรศัพท์กันเพลินเลยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ในส่วนนี้ก็ได้แก่ เก้าอี้หรือโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน ชั้นวางของ ตู้เก็บของ ซึ่งควรมีหลาย ๆ ชั้นสำหรับใส่ของ จะเป็นชั้นทึบสำหรับเก็บของที่ไม่ค่อยได้นำออกมาใช้ ชั้นโปร่งสำหรับเก็บของที่ต้องการโชว์ เช่น ของสะสม เหรียญรางวัลต่าง ๆ หากพื้นที่ในห้องมีจำกัด การใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์นั้นสำคัญมาก เช่น พื้นที่ว่างใต้เตียง สามารถทำเป็นตู้ลอยตัวชักเลื่อนเข้า-ออกสำหรับเก็บของได้

เชื่อว่าหากจัดห้องได้ถูกใจวัยโจ๋แล้ว ปัญหาเรื่องลูกไม่อยากอยู่บ้าน หรือชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านก็จะน้อยลงอย่างแน่นอน เมื่อลูกมีห้องที่ถูกใจเป็นของตัวเองแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมมอบหมายหน้าที่ให้ลูกวัยรุ่นรู้จักดูแล
รับผิดชอบห้องของตัวเองด้วยนะคะ ควรปัดกวาดเช็ดถู จัดระเบียบข้าวของในห้องนอนอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ผลัดเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ไปซักอย่างน้อยเดือนละครั้ง ฝึกให้เป็นกิจวัตรก็จะช่วยให้
โลกส่วนตัวเล็ก ๆ ของลูกเป็นโลกที่สะอาดน่าอยู่ตลอดไป

Resource: HealthToday Magazine, No.210 October 2018