ปีใหม่ผ่านไปแล้ว อากาศเริ่มอุ่นขึ้น หน้าร้อนกำลังจะมาเยือน ถ้าคุณผู้อ่านยังไม่มีแผนจะไปเที่ยวที่ไหน ลองไอเดียนี้ไหมคะ มาปรับเปลี่ยนโฉมบ้านจากเดิมที่สีเริ่มซีดหมอง มองดูแล้วไม่ค่อยมีชีวิตชีวา ให้บ้านกลับมาสดใสถูกใจสมาชิกในครอบครัวอีกครั้งด้วยการเปลี่ยนสีผนังบ้านใหม่ด้วยฝีมือตัวเอง เริ่มต้นที่หน้าร้อนนี่แหละดีที่สุด เพราะไม่ต้องเผชิญกับฝนหรือความชื้น สำหรับขั้นตอนการทาสี ไม่ยากอย่างที่คิด ฝีมืออาจสู้ช่างมืออาชีพไม่ได้ แต่ความภูมิใจเหลือล้นแถมประหยัดเงินในการจ้างช่างด้วยค่ะ มาเริ่มกันเลย
เตรียมสถานที่
ให้ตรวจดูก่อนว่าต้องการทาสีห้องใดบ้าง แต่ละห้องต้องการทาสีอะไร แล้วจะเริ่มจากห้องไหนก่อน ขอแนะนำให้ทาให้เสร็จเป็นห้อง ๆ ไปนะคะ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า มิฉะนั้นจะเกิดอาการเครียด เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ให้ห่างจากผนังที่จะทาสีประมาณ 1 เมตรคลุมด้วยแผ่นพลาสติก
เตรียมอุปกรณ์
อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีดังนี้
- อุปกรณ์ป้องกันการเปรอะเปื้อนเช่นผ้าปูพื้นป้องกันสีหยดกระเด็นโดนพื้นห้องแนะนำให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เพราะประหยัดดีใช้แล้วทิ้งได้เลย แผ่นพลาสติกสำหรับคลุมเฟอร์นิเจอร์ผ้ากันเปื้อนหรือเสื้อยืดเก่า ๆ สวมใส่ขณะทาสีแว่นตาสำหรับใส่ป้องกันสีกระเด็นเข้าตา ถุงมือพลาสติกป้องกันสีเลอะมือ
- ถาดผสมสี ให้ใช้ถุงพลาสติกใสห่อไว้เพื่อเวลาทาสีสีจะได้ไม่เลอะถาด พอทาสีเสร็จสามรถลอกพลาสติกทิ้งได้เลย
- ไม้คนสี ที่เปิดกระป๋องสี และน้ำเปล่าสำหรับผสมสี
- ลูกกลิ้งและแปรงทาสี มีหลายขนาดสามารถเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่
- บันไดใช้สำหรับทาสีในที่สูงไม่ควรยืนทาสีบนเก้าอี้เด็ดขาด เพราะอันตรายเสี่ยงต่อการตกลงมาบาดเจ็บได้
- เทปกระดาษสำหรับติดตามมุมรอยต่อระหว่างผนังกับเพดาน หรือรอยต่อระหว่างผนังกับบัวเพื่อป้องกันเวลาทาสีจะได้ไม่เลอะเพดานหรือบัวพื้นหลังจากสีแห้งแล้วก็ลอกทิ้งได้
- เลือกสีที่ชอบเคล็ดลับในการเลือกสีคือให้เลือกสีอ่อนกว่าสีที่เห็นในตัวอย่างสีสักนิดเพราะเวลาทาจริงเราต้องทาสีถึง 2 รอบ สีที่ได้จะเข้มพอดีกับสีที่เราต้องการอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของห้องที่ต้องการทาสีหากห้องมีขนาดเล็กการเลือกสีโทนอ่อนจะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นหากห้องมีขนาดใหญ่สามารถเลือกสีโทนเข้มได้เพราะจะทำให้ห้องดูเล็กลงเช่นเดียวกับห้องที่มีเพดานต่ำต้องการให้เพดานดูสูงขึ้น ให้ใช้สีโทนอ่อนค่ะเลือกสีและเฉดที่ให้ความรู้สึกตามที่เราชอบและต้องการเท่านั้นก็พอค่ะ
คราวนี้มาถึง ขั้นตอนการทาสี
- ก่อนทาสีให้ทำความสะอาดฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามผนังออกก่อนถ้ามีสีส่วนใดหลุดร่อนให้ใช้แปรงแซะออกเช็ดให้สะอาดปล่อยให้แห้งสนิทเพื่อช่วยให้สีที่ทาใหม่ติดทนนานยิ่งขึ้น
- ทาสีรองพื้นเพื่อให้สีรองพื้นช่วยเคลือบผนังปูนที่สีเดิมเสื่อมสภาพให้อยู่ในสภาพที่ดีและช่วยให้สีที่เราทาทับสามารถยึดเกาะพื้นผิวได้แน่นไม่หลุดร่อนง่าย
- ทาสีที่เลือกไว้เทคนิคในการทาสีให้ทาสีเพดานก่อนแล้วค่อย ๆไล่มาที่ผนังหน้าต่างประตูสุดท้ายคือขอบบัวเพื่อป้องกันสีหยดเลอะกับสีที่ทาไว้ก่อนหลังจากทาทั่วห้องแล้วช่วงนี้เป็นช่วงที่รอให้สีแห้งสนิทดิฉันเรียกว่าเป็นช่วงพักเบรคปล่อยให้มือทาสีทั้งหลายไปทำธุระส่วนตัวรับประทานอาหารให้เรียบร้อยสีแห้งพอดีก็ทาสีทับอีก 1 รอบรอให้แห้งเป็นอันเสร็จ
- หลังจากสีแห้งสนิทลองตรวจเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งดูว่ามีจุดใดที่ยังไม่ได้ทาเช่น ตามซอกมุมจุดใดที่สีไม่สม่ำเสมอให้รีบแก้ไข
- การเก็บสีและล้างอุปกรณ์สีที่เหลืออย่าทิ้งนะคะเก็บไว้ใช้อีกได้โดยให้เก็บในกระป๋องที่ปิดฝาแน่นเพื่อป้องกันฝุ่นและการแข็งตัวของสีห้ามเก็บสีไว้ในที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดการล้างอุปกรณ์ทาสีใช้น้ำเปล่านี่ล่ะค่ะล้างให้สะอาดผึ่งลมให้แห้งเป็นอันเรียบร้อย
เพียงเท่านี้ รับรองว่าบ้านจะเปลี่ยนเป็นบ้านหลังใหม่สดใสถูกใจสมาชิกทุกคนแน่นอน ในความเห็นของดิฉัน การทาสีเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้ประโยชน์กับสุขภาพเหมือนกัน เป็นการวอร์มร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย หลังจากทาสีเสร็จแล้วท่านใดเกิดอาการปวดแขน เมื่อยคอ คงเป็นสัญญาณเตือนว่าให้รีบไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีของเราค่ะ
Tipsสีที่ใช้ทาภายใน ให้ใช้สีน้ำอะครีลิกเท่านั้น เพราะกลิ่นไม่เหม็น แห้งง่าย ปัจจุบันมีการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพของสีให้ตรงกับความต้องการและมีผลดีต่อสุขภาพของผู้ใช้โดยการผสมสารบางชนิดเพื่อให้สีทนทานต่อสภาวะอากาศต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ลดการยึดเกาะของฝุ่น ลดการก่อตัวของคราบสกปรกบนผนัง ปลอดภัยจากความชื้นและเชื้อรา ทำความสะอาดง่าย ปราศจากสารปรอท ตะกั่ว ให้ความปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัย ในท้องตลาดมีให้เลือกหลายยี่ห้อ หากใช้ยี่ห้อใดแล้วขอให้ใช้ยี่ห้อเดียวกันทุกครั้งเพราะเฉดสีของแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน |
Resource: HealthToday Magazine, No.202 February 2018
