การมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน คือ การมีชีวิตอยู่ยาวนานโดยไม่เจ็บป่วย หรือเจ็บป่วยน้อยที่สุด ซึ่งในศาสตร์ของการมีสุขภาพดี หรือ Lifestyle Medicine จะเน้นเรื่อง “การป้องกัน” เป็นหลัก นอกจากเรื่องของอาหาร การออกกำลังกาย ความเครียด การนอน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้สารเสพติดแล้ว “สภาพแวดล้อม” ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน จากการศึกษาพบว่า ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากมลพิษในอากาศทั้งในบ้านและนอกบ้านสูงถึง 7 ล้านคน
โดยหนึ่งในสาเหตุหลักของมลพิษในอากาศที่พบในปัจจุบัน ได้แก่ PM2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ที่นอกจากจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับปอด มะเร็งปอด และโรคภูมิแพ้แล้ว PM2.5 ยังส่งผลกระทบต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย ดังนั้นการประเมินความเสี่ยงโดยการหมั่นตรวจสอบดัชนีคุณภาพอากาศเพื่อเตรียมการป้องกันตนเองจากมลพิษเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
เกณฑ์ของดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย โดย กรมควบคุมมลพิษ
AQI | สีที่ใช้ | ความหมาย | แนวทางการป้องกันผลกระทบ |
0-25 | ฟ้า | คุณภาพอากาศดีมาก | คุณภาพอากาศดีมาก เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยว |
26-50 | เขียว | คุณภาพอากาศดี | คุณภาพอากาศดี สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้ตามปกติ |
51-100 | เหลือง | ปานกลาง | ประชาชนทั่วไป สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง |
101-200 | ส้ม | เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ | ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาในการทำกิจกรรม |
201 ขึ้นไป | แดง | มีผลกระทบต่อสุขภาพ | ทุกคนควรควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ |
การป้องกันความเสี่ยงจาก PM2.5 สามารถทำได้โดย
- สวมใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานสากล และติดตั้งเครื่องกรองอากาศภายในบ้าน
- หลีกเลี่ยงการเผชิญมลภาวะในชั่วโมงเร่งด่วน ลดการอยู่ในสภาพที่มีการจราจรคับคั่ง
- ออกกำลังกายเป็นประจำและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ และตั้งค่าให้มีการไหลเวียนอากาศภายในบ้าน เพราะระบบระบายอากาศเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยลดมลพิษภายในบ้านได้
คำแนะนำในการเลือกหน้ากาก
การจะเลือกใช้หน้ากากแบบใดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน หากต้องการป้องกัน PM2.5 ควรเลือกใช้หน้ากาก N-95 หรือหน้ากากที่ที่มีมาตรฐานสากลเท่าเทียม เช่น KN95 เป็นต้น ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นผงขนาดเล็กหรือ PM2.5 ได้ประมาณ 95% โดยเลือกที่มีขนาดและฟิลเตอร์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้ ผ่านการทดสอบมาตรฐานจากต่างประเทศ และต้องสวมใส่อย่างถูกต้องพร้อมกับซีลบริเวณรอบ ๆ ใบหน้าให้แน่นพอดี หากกังวลว่าจะอึดอัด หายใจไม่สะดวก ในกรณีที่ไม่ได้เป็นผู้ป่วยโควิด 19 สามารถเลือกใช้หน้ากาก N-95 ชนิดที่มีวาล์วได้
หน้ากากชนิด N-95 ปกติใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่สามารถใช้สวมเป็นช่วง ๆ ได้ในระยะเวลา 3-4 วัน โดยพับเก็บในถุงซิป และควรเปลี่ยนหน้ากากชิ้นใหม่ทุกครั้งเมื่อฉีกขาด เปียกชื้น หรือรู้สึกหายใจติดขัด
เรียบเรียงจาก การบรรยายเรื่อง “ปกป้องลมหายใจ ปลอดภัย ไกลโรค” โดย ศ. ดร. พญ.อรพรรณ โพชนุกูล นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ งานสุขภาพเต็มร้อย วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2565